My family

โยคะลดหน้าท้อง

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

10 อย่างอาหารอันตรายต่อสุขภาพ


1. แฮมเบอร์เกอร์
     จัดเป็นอาหารประเภทที่ มีความเสี่ยงสูงเพราะเวลาที่สูญเสียไปในระหว่างรอกระบวนการนำ เนื้อมาใช้ปรุงทำให้มี แบคทีเรียเกิดขึ้นได้สูง ทำให้จำเป็นต้องมีการใช้ สารเคมีสีแดงมาช่วยกำจัดเนื้อที่กำลังจะเน่าเสีย ทำให้เนื้อแดงเปลี่ยนเป็นเขียว นอกจากนี้แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่ สารปรุงรส’(MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ โดย ‘MSG’ เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ผู้บริโภคอ้วนขึ้นด้วย  
2.ฮอทด็อก
      เป็นอีก เมนูอันตรายเพราะมีกระบวนการผลิตคล้ายแฮมเบอร์เกอร์ และ ฮอทด็อกทั้ง หมดยังใส่ สารไนไตรท์เพื่อช่วยทำให้เนื้อยึดตัวและช่วยเติมไส้กรอกให้เต็ม โดย สารไนไตรท์เป็นสารที่ทำให้เกิด โรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งในเม็ดเลือด เนื้องอกในสมองและมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ  นอกจากนี้ ถุงหลอดที่ใช้บรรจุฮอทด็อก ก็ทำจาก คอลลาเจนสังเคราะห์ที่เป็นสารก่อให้เกิด โรคมะเร็งได้สูง มีไขมันที่เป็นสารประกอบไม่เปิดเผยอยู่ประมาณ 40% เมื่อนำ ไปปิ้งย่าง มันจะทำให้มี สารพิษร้ายแรงที่เรียกว่า อะคริลิไมด์’(Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็งและ ทำลายประสาท’  
3.เฟร้นช์ฟราย- มันฝรั่งทอด

       เป็นอาหารที่มี ความเป็นพิษสูงโดยการทอด เฟร้นช์ฟรายใช้อุณหภูมิสูงทำให้มี สารอะคริลิไมด์ออกมา นอกจากนี้ น้ำมันที่ใช้ในการทอดมันฝรั่งแต่ละครั้งจะเกิดการ ออกซิไดซ์ในมันฝรั่งยังมีดรรชนีกลีซิมิค’(Glycemic) อยู่สูงมาก.....นั่นหมายถึงมันเปลี่ยนให้กลายเป็นน้ำตาลภายในร่างกายได้เร็วมาก  
4. คุกกี้

     ที่เด่นชัดมาก คือ สัดส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว ซึ่งอาหารในประเภทที่มีน้ำ ตาลปริมาณสูงเช่นนี้ จะทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น  
5.พิซซ่า

      ‘พิซซ่าประกอบด้วยอาหารที่มาจากการ ตัดแต่งพันธุกรรม’ 5 ชนิด คือ..... 
    1.’เนยแท้’(cheese) เพียง 10% เท่านั้น ซึ่งไม่ควรเรียกว่าเนยแท้ได้เลย.....
    2.’แป้งที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำ  
        การเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโม เลกุลที่เคยมีอยู่เข้าไปใหม่.....

    3.’ซอสมะเขือเทศทำด้วยสารคล้ายมะเขือเทศที่สร้าง ยาฆ่าแมลงของมันขึ้นมาได้เองในร่างกายของท่าน.....
    4.’แป้งสาลีชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุกรรม
    5.มี น้ำมันฝ้ายประกอบอยู่ โดยฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้ในฝ้ายเมล็ดจะเป็นตัวดูดเอาสารพิษต่างๆเอาไว้ได้มากที่สุด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงสาธารณะสุข ต่างไม่ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันที่จะรับรองว่ามันปลอดภัยต่อการบริโภคได้หรือไม่ มันไม่ได้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น แต่มันเป็น น้ำมันไฮโดรจีเนตและมีอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ผิวหน้าแป้งพิซซ่าที่อบปิ้งในอุณหภูมิสูง อาจมี สารอะคริลิไมด์เกิดขึ้นด้วย ขณะที่การเพิ่มหน้าพิซซ่า เพ็พเปอโรนิหรือเพิ่มหน้าไส้กรอกทำให้มีความเสี่ยงสูงจาก ไนไตรท์สารกันบูดและสารเคมีอื่นๆ รวมทั้งไขมันอิ่มตัวที่มีการเติมเข้าไปจากโรงงาน 
6.น้ำอัดลม

     สารตัวสำคัญที่มีอยู่ใน น้ำอัดลมคือ กรดกำมะถัน’(Phosphoric acid) ซึ่งมีความเป็นกรดสูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วัน กรดที่สะสมอยู่ในร่างกายทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ และ น้ำโซดาที่เป็นส่วนประกอบอีกตัวของน้ำอัดลมจะเป็นตัวชะล้างแคลเซียมออกจากกระดูก จนทำให้เกิด โรคกระดูกพรุน
 7.ชิ้นไก่ทอด-เนื้อนุ่มไร้กระดูก

      เป็นเมนูที่ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว การรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไปจะให้พลังงาน 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมัน มีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส ‘MSG’ ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ นอกจากนี้ นัคเก็ตชิคเก้นบางอันจะมีสารอะลูมิเนียมซึ่งเป็นอันตรายต่อสมองและเป็นอันตรายต่อการเมตะโบลิสซึมของร่างกายด้วย  
8.ไอศกรีม

      มีไขมันอยู่สูงมากเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีคาร์โบไฮเดรตอยู่มากเกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีน้ำตาลอยู่มากทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น เต็มไปด้วยไขมันไฮโดรจีเน็ตและไขมันที่แปรเปลี่ยน(Transfat) ไปจากธรรมชาติและยังช่วยเพิ่มพูนโคเลสเตอรอล ทำให้เส้นเลือดแดงใหญ่อุดตัน ทำให้มีสารอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็ง  
9.โดนัท  
      โดยเฉลี่ยแล้วจะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัท 1 ชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ นอกจากนี้โดนัทยังทอดในน้ำมันที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งน้ำมันประเภทนี้จะทำให้มีกลิ่นหืนและมีสารอนุ มูลอิสระเกิดขึ้น ทำให้เกิดสารพิษและทำให้ร่างกายเมตะโบลิสซึมช้าลง เป็นการคุกคามต่อสุขภาพที่ดี และยังเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น  
10.อาหารขบเคี้ยวยามว่าง
    ในปัจจุบันมีการบริโภค โปเตโต้ชิพกันมาก โดยน้ำมันที่ใช้ในการทอดโปเตโต้ชิพในแต่ละครั้งจะเกิดการออกซิไดซ์ และทอดกันที่อุณหภูมิสูงทำให้มีสารอะคริลิไมด์ (Acrylimides) ซึ่งเป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาทออกมา นอกจากนี้การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ถุงอาจได้รับสารอะคริลิไมด์สูงมากกว่า 500 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราสูงสุดที่อนุญาตให้มีในน้ำดื่มทั่วไปได้การรับประทานโปเตโต้ชิพ 1 ชิ้น อาจได้รับสารอะคริลิไมด์ เท่ากับอัตราที่มีอยู่ในน้ำดื่ม 1 แก้ว

     รู้โทษของอาหารเหล่านี้แล้ว ควรจะหลีกเลี่ยงแล้วหันไปรับทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพดีกว่า!!!

ข้อมูลจาก http://www.kroobannok.com/blog/4275

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น